WordPress คืออะไร สำหรับผู้เริ่มต้น

สอน wordpress

WordPress คือ CMS ยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก ที่กินส่วนแบ่งการตลาดของ CMS ไปถึง 42% มีผู้ใช้งานมากกว่า 30 ล้านเว็บไซต์ทั่วโลก สามารถสร้างเว็บไซต์ได้แทบจะทุกรูปแบบธุรกิจ เป็นการสร้างเว็บไซต์แบบไม่ต้องเขียนโค้ด แต่ WordPress.org ไม่ใช่เว็บไซต์สำเร็จรูป หากเรามีความรู้มากพอ นั้นหมายความว่า เราสามารถออกแบบปรับแต่งเว็บไซต์ของเราได้อย่างอิสระไม่มีข้อจำกัด

WordPress คืออะไร

เว็บไซต์ทั่วทั้งโลก 35% ถูกสร้างด้วย WordPress และยังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ

อ้างอิงข้อมูลจาก kinsta.com

WordPress คือ ซอฟท์แวร์ หรือ โปรแกรม เอาไว้สำหรับสร้างเว็บไซต์ เป็นซอฟท์แวร์ประเภท CMS ตัวหนึ่ง CMS ย่อมาจาก Content Management System แปลตรงตัวก็คือ “ระบบบริหารจัดการเนื้อหา” พูดให้เข้าใจง่ายๆ CMS เป็นซอฟท์แวร์สำหรับบริหารจัดการเนื้อหาเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป เราไม่ต้องเขียนโค้ดขึ้นมาเอง CMS จะช่วยสร้างเว็บไซต์ให้เราตั้งแต่ต้น เรามีหน้าที่เขียนเนื้อหาต่างๆลงไปเผยแพร่และปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีหน้าตาและการใช้งานอย่างที่เราต้องการ ตัวอย่างของ CMS อื่นๆ นอกจาก WordPress ก็เช่น Joomla หรือ Drupal เป็นต้น

แต่ในปัจจุบัน WordPress ไม่ใช่แค่บริหารจัดการเนื้อหาได้เท่านั้น ยังสามารถออกแบบปรับแต่งเว็บไซต์ให้สวยงาม และ ยังสามารถทำเว็บไซต์ขายของได้ด้วย ปลั๊กอิน Woocommerce

WordPress.com VS WordPress.org

ที่มาของรูป wpexplorer.com

WordPress.com

  • เป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์ สำเร็จรูป
  • สมัครใช้งานได้เลย ไม่ต้อง download มาติดตั้งเอง
  • ไม่ต้องเช่าโฮสติ้ง ข้อมูลเก็บได้ที่ WordPress.com
  • ไม่สามารถติดตั้ง ธีมและปลั๊กอิน ได้อย่างอิสระ
  • สามารถปรับแต่งออกแบบเว็บไซต์ได้เล็กน้อย
  • เริ่มต้นได้ง่าย เหมาะกับมือใหม่
  • เหมาะกับใช้เขียนบทความอย่างเดียว
  • ทำร้านค้าออนไลน์ ต้องซื้อแพ็กเกจขั้นสูง
  • มีค่าบริการรายปี

WordPress.org

  • เป็น Software Open Source
  • ต้องทำการติดตั้งเอง
  • ต้องจดโดเมน และ เช่าโฮสติ้งเอง
  • สามารถติดตั้ง ธีมและปลั๊กอิน ได้อย่างอิสระ
  • สามารถปรับแต่งออกแบบเว็บไซต์ได้อย่างอิสระ
  • ต้องใช้เวลาศึกษารู้เรียนพอสมควร
  • เหมาะสำหรับสร้างเว็บไซต์หลากหลายรูปแบบ
  • ทำร้านค้าออนไลน์ โดยการใช้ปลั๊กอินฟรี
  • ไม่มีการเก็บบริการรายปี
  • WordPress.com เป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์สำเร็จรูป แบบครบวงจร เริ่มต้นใช้งานได้ฟรี และคุณไม่จำเป็นต้องเช่าโฮสติ้งหรือจดชื่อโดเมนกับเว็บภายนอก ข้อมูลทั้งหมดเก็บได้ที่เว็บ WordPress.com สิ่งที่คุณต้องทำคือสมัครใช้งานบัญชี และคุณจะสามารถเริ่มสร้างเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณได้ทันที (มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน)
  • WordPress.org เป็นซอฟต์แวร์เว็บไซต์โอเพนซอร์ซ ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณ ซอฟต์แวร์นี้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่คุณจำเป็นต้องจดโดเมนและเช่าโฮสติ้งเอง

การทำงานทั้งสองแพลตฟอร์มมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ WordPress.org มีอิสระในการปรับแต่งมากกว่า

กลับสู่สารบัญ

เปรียบเทียบแบบละเอียด

1.เปรียบเทียบต้นทุน – อันไหนถูกกว่า?

มาดูกันว่าคุณต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการสร้างเว็บไซต์ในแต่ละแพลตฟอร์ม

WordPress.com มีทั้งแบบฟรีและแบบพรีเมียม

  • แผนฟรีนั้น ฟรี 100%โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ คุณสามารถสร้างเว็บไซต์บนซับโดเมนของ WordPress.com ได้ (เช่น www.teeoi.wordpress.com) ใช้พื้นที่ดิสก์สูงสุด 3 GB และคุณต้องยอมรับโฆษณาของ WordPress.com ทั่วทั้งไซต์ของคุณ
  • แผนพรีเมียมเริ่มต้นที่ 130 – 2,300 บาท ต่อเดือนและมาพร้อมกับคุณสมบัติและสิทธิพิเศษที่แตกต่างกัน แม้แต่แผนที่ถูกที่สุด (เรียกว่า Personal ) ก็มาพร้อมกับชื่อโดเมนฟรีเป็นเวลาหนึ่งปี
wordpress ราคา

WordPress.org เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซแบบฟรี 100%

แต่ถ้าหากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏต่อสาธารณะในโลกออนไลน์ คุณจะต้องจดโดเมนและเช่าโฮสติ้งเอง ราคาจดโดเมน 1 ปี 500 บาท เช่าโฮสติ้ง 1,500 บาท (รวม 2,000 บาทต่อปี)

เทียบต้นทุนในทางปฏิบัติจริง

ต่อไปนี้เป็นวิธีเปรียบเทียบต้นทุนระหว่าง WordPress.com กับ WordPress.org ในทางปฏิบัติจริง นี่คือค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในการเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ ด้วยการตั้งชื่อโดเมนที่กำหนดเอง (ในกรณีชำระเป็นรายปี)

  • WordPress.com แผนถูกที่สุด = ฿130/เดือน = ฿1,560/ปี แผนนี้เราสามารถตั้งชื่อโดเมนเองได้ แต่มีฟังก์ชั่นให้ใช้งานที่จำกัด (อาจจะยังไม่เหมาะสำหรับสร้างร้านค้าออนไลน์)
  • WordPress.com แผนแพงที่สุด = ฿1,500/เดือน = ฿18,000/ปี แผนนี้เราสามารถตั้งชื่อโดเมนเองได้ พร้อมกับฟังก์ชั่นต่างๆที่จัดเต็ม
  • WordPress.org สำหรับตัวซอฟต์แวร์นั้นฟรี แต่ต้องจดโดเมนและเช่าโฮสติ้งเอง ราคาแผนเริ่มต้นที่ hostatom.com โดเมน ฿500/ปี โฮสติ้ง ฿1,500/ปี รวม 2,000/ปี

วิธีจดโดเมนและเช่าโฮสติ้ง วิธีจดโดเมน  , วิธีเช่า Hosting

สรุป: อันไหนถูกกว่า

  • หากคุณต้องการเริ่มต้นกับแผนขั้นพื้นฐาน WordPress.com จะถูกกว่า
  • WordPress.org จ่าย ฿2,000/ปี แต่สามารถมีฟังก์ชั่นได้มากกว่า WordPress.com แผนแพงที่สุดซะอีก
  • สำหรับผมมองว่า WordPress.org นั้นคุ้มค่ามากกว่าครับ

2.ขั้นตอนการตั้งค่า – อันไหนง่ายกว่ากัน?

สำหรับ WordPress คุณไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์หรือมีความเชี่ยวชาญด้านโนโลยี ก็สามารถตั้งค่าใช้งาน WordPress ได้

WordPress.com

การเริ่มต้นใช้งานที่ WordPress.com นั้นง่ายมาก เพราะเป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์สำเร็จรูป เพียงแค่ไปที่ WordPress.com สมัครบัญชีผู้ใช้ แล้วคลิกปุ่มเริ่มเว็บไซต์

wordpress คือ

WordPress.com จะนำคุณไปตั้งค่าขั้นตอนต่างๆ ทีละขั้นตอน ให้คุณกำหนดค่าเว็บไซต์ใหม่ด้วยวิธีที่เข้าใจง่าย เพียงป้อนอีเมล ชื่อไซต์ของคุณ และเลือกการออกแบบจากชุดธีมที่มี

หลังจากผ่านไปสองสามนาที คุณจะได้เว็บไซต์หรือบล็อกที่ใช้งานได้ซึ่งคุณสามารถเริ่มใช้งานได้ทันที

WordPress.org

การตั้งค่าของ WordPress.org มีความซับซ้อนมากกว่า

ก่อนอื่นเลยคือคุณไม่ได้ไปที่เว็บไซต์ WordPress.org เพื่อเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ คุณต้องไปที่โฮสติ้งที่คุณเช่าไว้ แล้วทำการติดตั้ง WordPress ลงบนโดเมนของคุณ แล้วจึงจะเข้าไปตั้งค่าเว็บไซต์ได้ วิธี ติดตั้ง WordPress บนโดเมน

โปรแกรม wordpress คือ

หากคุณกำลังจะใช้แพลตฟอร์มโฮสติ้ง เช่น hostatom (ซึ่งผมแนะนำ) คุณจะสามารถเข้าถึงตัวติดตั้งได้ในคลิกเดียวเช่นเดียวกับ WordPress.com เพียงแค่ระบุชื่อโดเมนของคุณ

สรุป: อันไหนตั้งค่าง่ายกว่ากัน?

  • WordPress.com แพลตฟอร์มนี้ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อให้ขั้นตอนการตั้งค่าง่ายที่สุด
  • WordPress.org นั้นยากกว่าในการตั้งค่า แต่ล่ะโฮสติ้งก็จะมีการติดตั้งที่ไม่เหมือนกัน วิธี ติดตั้ง WordPress บนโดเมน สำหรับ hostatom.com

3.จำนวนธีม อันไหนมีให้เลือกเยอะกว่ากัน?

Theme ธีม คือ เครื่องมือสำหรับออกแบบเว็บไซต์ จัดวางหน้าตา layout ต่างๆ ให้สวยงาม แต่ละธีมจะมีวิธีใช้งานและรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

WordPress.com

จำนวนธีมที่คุณสามารถเข้าถึงได้จะขึ้นอยู่กับแผนราคาที่คุณเลือก

  • แผนฟรีและแผนราคาถูกสุด จะให้คุณเข้าถึงธีมฟรีกว่า 150 ธีม
  • แผนพรีเมียมธุรกิจและอีคอมเมิร์ซให้คุณเข้าถึงธีมฟรีทั้งหมด รวมถึงธีมพรีเมียมอีกกว่า 200+ ธีม

WordPress.org

พูดง่ายๆ ก็คือ จำนวนของธีมฟรีและพรีเมียมที่มีให้สำหรับซอฟต์แวร์ WordPress.org นั้นมีนับพัน

ขั้นแรก คุณสามารถเลือกธีมฟรีกว่า 8,000 ธีมจากไดเร็กทอรีทางการที่ WordPress.org จากนั้น คุณยังสามารถติดตั้งธีมฟรีอื่นๆ ที่คุณพบที่อื่น – มีหลายพันแบบเช่นกัน

สุดท้าย คุณสามารถเลือกจากธีมพรีเมียมอีกนับพัน ตัวอย่างเช่น ThemeForest (ตลาดชั้นนำสำหรับธีม WordPress) มีธีมมากกว่า 11,000 ธีม

สรุป: อันไหนมีธีมให้เลือกมากกว่ากัน?

  • WordPress.org มีธีมออนไลน์ให้เลือกมากกว่า นับหมื่นธีม

4.จำนวนปลั๊กอิน อันไหนมีให้เลือกเยอะกว่ากัน?

Plugin ปลั๊กอิน คือ ส่วนเสริมฟังก์ชั่นต่างๆ ช่วยทำในสิ่งที่เราต้องการ หรือ ช่วยให้ตอบโจทย์ในธุรกิจของเรามากขึ้น เช่น สร้างร้านค้าออนไลน์ สร้างแบบฟอร์มติดต่อ สร้างหน้าแจ้งการชำระเงิน ปรับความเร็วให้เว็บไซต์ และอื่นๆอีกมากมาย

WordPress.com

ช่วยให้คุณติดตั้งปลั๊กอินได้ก็ต่อเมื่อคุณใช้ แผน ธุรกิจหรืออีคอมเมิร์ซซึ่งมีราคา 25 ดอลลาร์และ 45 ดอลลาร์ต่อเดือนตามลำดับ

ในแผนเหล่านี้ คุณจะเข้าถึงปลั๊กอินได้มากกว่า 50,000 รายการ

WordPress.org

คุณสามารถติดตั้งปลั๊กอินได้โดยไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าคุณจะใช้โฮสติ้งเจ้าไหน ราคาเท่าไหร่

ตามค่าเริ่มต้น คุณจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงปลั๊กอินมากกว่า 50,000รายการ (แบบเดียวกับที่คุณได้รับจาก แผนธุรกิจหรืออีคอมเมิร์ซที่ WordPress.com) แต่คุณก็สามารถติดตั้งปลั๊กอินฟรีและพรีเมียมอื่นๆ อีกหลายพันรายการ

สรุป: อันไหนมีปลั๊กอินให้เลือกมากกว่ากัน?

  • WordPress.org ชนะขาด เพราะคุณสามารถติดตั้งปลั๊กอินได้โดยไม่มีข้อจำกัด

5.การปรับแต่งออกแบบ

WordPress.com และ WordPress.org ใช้ซอฟต์แวร์เดียวกัน – ซอฟต์แวร์ WordPress ดั้งเดิม แต่มีข้อจำกัดบางประการที่แตกต่างกัน

WordPress.com

มีการออกแบบและปรับได้ไม่มากนัก เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์สำเร็จรูป จึงมีข้อจำกัด และขึ้นอยู่กับแผนราคาที่คุณเลือกใช้

WordPress.org

เนื่องจากเป็นโอเพ่นซอร์สทั้งหมด คุณจึงสามารถเปลี่ยนธีม ติดตั้งธีมใหม่ ติดตั้งและกำหนดค่าปลั๊กอิน จ้างผู้เชี่ยวชาญเพื่อเขียนโค้ดแบบกำหนดเองบนไซต์ของคุณ ( ถ้าจำเป็น) หรือทำงานเกี่ยวกับการเขียนโค้ดที่กำหนดเองด้วยตัวคุณเอง

โดยสรุป WordPress.com คุณสามารถทำสิ่งที่ WordPress.com อนุญาตให้คุณทำเท่านั้น แต่ WordPress.org คุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ

สรุป: ตัวไหนปรับแต่งได้เยอะกว่า?

  • WordPress.org ชนะขาด เพราะคุณจะไม่ถูกจำกัดในการออกแบบเลย มีอิสระเต็มที่ในการออกแบบและสร้างเว็บไซต์

6. มีการสนับสนุน / ความช่วยเหลือ

การสนับสนุนช่วยเหลือลูกค้า เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดและคุณต้องการความช่วยเหลือในทันที

WordPress.com

ไม่มีตัวเลือกการสนับสนุนทางอีเมลหรือแชทสดสำหรับแผนฟรี อย่างไรก็ตาม มีฟอรัม WordPress.com ซึ่งอาจมีประโยชน์หากคุณประสบปัญหาบางอย่าง

หากคุณลงทะเบียนด้วย แผนถูกสุด (เริ่มต้นที่ $4/เดือน) คุณจะได้รับการสนับสนุนทางอีเมลแบบไม่จำกัดและตัวเลือกแชทสดเริ่มต้นจาก แผนพรีเมียม ($14/เดือน)

WordPress.org

ไม่มีการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเป็นทางการของ WordPress.org แต่คุณสามารถรับการสนับสนุนช่วยเหลือได้จากผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง WordPress ของคุณ

ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันไม่เว้นวันหยุด หากคุณเลือกโฮสติ้งที่รู้เกี่ยวกับ WordPress คุณจะสามารถเข้าถึงทีมสนับสนุนช่วยเหลือได้ เมื่อคุณเกิดปัญหา (นี้คือเหตุผลที่ผมแนะนำให้มือใหม่เลือกใช้โฮสติ้งเจ้าของคนไทย เพราะเมื่อเกิดปัญหา เราจะสามารถพูดคุยปรึกษา ให้เขาแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ ผมแนะนำให้ใช้เป็น hostatom.com เพราะเขาบริการดี แก้ปัญหาให้ได้อย่างรวดเร็ว)

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้ฟอรัม/เอกสารออนไลน์ที่ผู้ใช้ WordPress จำนวนมากไปขอความช่วยเหลือได้

นอกเหนือจากนี้คือ เราช่วยกันเอง ถ้าเราเลือกที่จะใช้งาน WordPress ซึ่งเป็น CMS ยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก เมื่อเราเจอปัญหาเราจะหาข้อมูลวิธีแก้ได้ง่าย อาจจะเป็นตามอินเทอร์เน็ต หรือ ตามกลุ่ม facebook ในประเทศไทย

สรุป: อันไหนให้ความช่วยเหลือดีกว่ากัน?

  • ข้อนี้ต้องขอยกให้กับ wordpress.com เพราะมีการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ
  • WordPress.org ก็มีการสนับสนุนช่วยเหลือ แต่เป็นจากบุคคลภายนอกมากกว่า

7. การบำรุงรักษา

การดูแลเว็บไซต์อาจเป็นเรื่องยุ่งยาก โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้น เรามาดูกันว่า WordPress.com และ WordPress.org แตกต่างกันอย่างไรในเรื่องนี้

WordPress.com

WordPress.com คุณจะได้รับตัวเลือกความปลอดภัยขั้นพื้นฐานและการสำรองข้อมูลในตัวตั้งแต่เริ่มใช้งาน

โดยพื้นฐานแล้ว คุณต้องพึ่งพาการรักษาความปลอดภัยภายในของ WordPress.com และกลไกทั้งหมดที่บริษัทสร้างขึ้น และยังไม่มีการรายงานการละเมิดหรือการบุกรุกที่ร้ายแรง WordPress.com จะดูแลการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ทำงานในเว็บไซต์ของคุณ (ก็คือ WordPress.com จะดูแลความปลอยภัยและบำรุงรักษาเว็บไซต์ของคุณให้)

WordPress.org

ซอฟต์แวร์ WordPress.org นั้นโปร่งใส (ทุกคนสามารถเห็นซอร์สโค้ดได้) และสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงข้อกำหนดและมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ทันสมัย

การติดตั้ง WordPress ใหม่ทั้งหมดนั้นค่อนข้างปลอดภัยอยู่แล้ว และไม่ทำให้แฮ็กเกอร์เจาะเข้ามาได้ง่ายเกินไป หากต้องการปรับปรุงความปลอดภัยของ WordPress ให้ดียิ่งขึ้น เช่น หากเป็นเว็บไซต์ธุรกิจ คุณสามารถติดตั้งปลั๊กอินความปลอดภัยเพิ่มเติมได้ เช่น Wordfence หรือ Sucuri

การสำรองข้อมูลเป็นสิ่งที่คุณต้องดูแลด้วยตัวเอง ผ่านปลั๊กอิน เช่น Backup Guard หรือ UpdraftPlus

เมื่อพูดถึงการอัปเดตคุณต้องดำเนินการด้วยตนเอง เมื่อใดก็ตามที่มีการอัปเดตซอฟต์แวร์ คุณจะเห็นการแจ้งเตือนการอัปเดตในแดชบอร์ด WordPress ของคุณ คุณสามารถติดตั้งการอัปเดตได้ด้วยคลิกเดียว

สรุป: อันไหนดูแลรักษาง่ายกว่ากัน?

  • เรื่องนี้ต้องยกให้กับ WordPress.com เพราะคุณไม่ต้องทำอะไรเลยในแง่ของการบำรุงรักษา เช่นเดียวกับความปลอดภัยและการสำรองข้อมูล

8.ตัวเลือกการสร้างรายได้

WordPress.com

แผนฟรีและแผนราคาถูกแทบจะไม่สามารถสร้างรายได้เลย หากคุณต้องการสร้างรายได้จากเว็บไซต์ WordPress.com คุณต้องใช้แผนพรีเมียมเป็นอย่างน้อย

นอกจากนี้ในแผนฟรี WordPress.com จะแสดงโฆษณาของตัวเองบนไซต์ของคุณ และคุณไม่สามารถปิดใช้งานได้

WordPress.org

สามารถสร้างรายได้ด้วยวิธีใดก็ได้ ที่คุณต้องการ ไม่มีข้อจำกัดใดๆ เนื่องจาก WordPress.org เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส คุณจึงสามารถติดตั้ง/เปิดใช้งาน/เพิ่มวิธีการสร้างรายได้ ได้ตามที่คุณต้องการ

สรุป: อันไหนดีที่สุดสำหรับการสร้างรายได้?

  • WordPress.org คุณสามารถทำสิ่งที่คุณต้องการในแง่ของการสร้างรายได้เมื่อใช้งานซอฟต์แวร์ WordPress.org

อย่างที่คุณเห็น ทั้ง WordPress.com และ WordPress.org มีข้อดีและข้อเสีย และไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการสร้างเว็บไซต์แบบไหน สร้างไปเพื่ออะไร หากต้องการสร้างบล็อก ลงบทความง่ายๆ ก็ไปใช้ WordPress.com หากต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อธุรกิจหรือทำร้านค้าออนไลน์ ก็ควรไปใช้เป็น WordPress.org เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า

กลับสู่สารบัญ

ทำไมต้องเลือกใช้งาน WordPress

  • ไม่ต้องเขียนโค้ด
    ถึงเราจะไม่ใช่โปรแกรมเมอร์หรือเขียนโค้ดไม่เป็น เราก็สามารถที่จะสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ได้ เพราะเวิร์ดเพรสส์ นั้นไม่ได้มีอะไรยากเลยครับ ง่ายๆเหมือนเราใช้โปรแกรม powerpoint หรือ microsoft word
  • หลากหลายทั้งธีมและปลั๊กอิน
    WordPress.org ไม่ใช่เว็บไซต์สำเร็จรูป เพราะฉะนั้นเราสามารถปรับแต่งได้โดยอิสระเต็มที่ มีธีมให้เราโหลดมาใช้เยอะมากมาย ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน และยังดีไซน์สวยมากๆ ปลั๊กอินมีเยอะเช่นกัน ทั้งแบบใช้ฟรีและเสียเงิน เป็นตัวช่วยให้เราทำสิ่งต่างๆได้โดยง่าย และยังช่วยปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้ดูสวยขึ้นอีกด้วยครับ
  • ประหยัดเงิน
    เราสามารถโหลด WordPress มาใช้ได้ฟรี เพราะเป็น Opensource ฉะนั้นใครๆก็สามารถใช้ WordPress ได้ เราไม่จำเป็นต้องจ้างโปรแกรมเมอร์มาสร้างเว็บไซต์ หรือ ดูแลเว็บไซต์ เราสามารถสร้างเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเองเลย
  • ฟังชั่นเยอะ
    ด้วยความที่มีปลั๊กอินต่างๆมากมาย ทำให้เราทำฟังชั่นต่างๆได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งพิกเซลเพื่อยิงโฆษณา รองรับการทำงานร่วมกับ ภาพ ไฟล์เสียง วีดีโอ ได้ทุกอย่าง เชื่อมต่อเว็บไซต์เข้ากับโซเชียลมีเดียของเราได้อย่างง่ายดาย
  • ถูกใจ Google
    อย่างที่เรารู้ๆกัน google เป็น Search Engine ที่ยิ่งใหญ่มากๆในโลกอินเทอร์เน็ต ถ้าหากเราทำ seo ให้ขึ้นไปอยู่อันดับแรกของ Google ได้ ยอดขายเราเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ
  • อัพเดทเนื้อหาได้ง่าย
    การเพิ่มเนื้อหาทั้ง Posts Pages หรือ สินค้า การแก้ไขสต๊อกสินค้า ของเวิร์ดเพรสส์ง่ายมาก รวมไปถึงการแก้ไขในส่วนต่างๆของเว็บง่ายกว่าการเขียนโค้ด เราสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเราเองครับ
  • มีผู้ใช้งานเยอะ
    เนื่องด้วย WordPress คือ CMS ที่มีผู้ใช้งานเยอะที่สุด เวลาที่เราเกิดปัญหา เราสามารถหาคำตอบได้ง่ายตามอินเทอร์เน็ต หรือใน กลุ่ม Facebook

WordPress สร้างเว็บอะไรได้บ้าง

ตามหลักแล้ว WordPress สามารถสร้างเว็บได้ทุกรูปแบบ เช่น เว็บบริการ เว็บบริษัท เว็บขายปลีกสินค้า เว็บขายส่ง เว็บรับตัวแทนจำหน่าย เว็บโรงงาน เว็บขายคอร์สออนไลน์ เช่น skilllane.com รวมไปถึงการสร้างเว็บเป็น Marketplace เหมือน shopee , LAZADA ที่สามารถให้คนอื่นสามารถนำสินค้ามาลงขายที่เว็บเราได้

แต่ในความเป็นจริงก็มีเว็บบางประเภทที่ไม่เหมาะกับการสร้างด้วย WordPress โดยเฉพาะเว็บที่มีระบบที่ซับซ้อน ไปใช้เครื่องมืออื่นจะเหมาะกว่า เช่น เว็บประเภทที่ให้คนอื่น สามารถลงข้อมูลที่เว็บเราได้ สร้างเว็บเป็น Marketplace ให้คนอื่นลงขายสินค้าได้ เว็บให้คนลงขายที่ดิน เว็บให้คนลงขายรถมือสอง

สาเหตุเพราะว่า
  • เว็บ Marketplace นั้นมีระบบที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก ผู้คนต้องสามารถนำสินค้ามาวางขายได้ ใส่รายละเอียดของสินค้า ใส่ราคา ข้อมูลของผู้ขาย เช็คยอดเงิน เช็คการส่งของ และอื่นๆอีกมากมาย ที่ต้องกำหนดค่า
  • WordPress เป็น open source software จึงมีผู้คนมากมายมาร่วมกันพัฒนา สร้างธีม สร้างปลั๊กอินขึ้นมา ถ้าเราสร้างเว็บให้ซับซ้อนมากเกินไป ใช้งานธีมและปลั๊กอิน ที่ผู้คนต่างคนต่างสร้างขึ้นมา มันก็มีโอกาสที่ธีมหรือปลั๊กอิน จะไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ อาจจะทำให้ระบบเว็บเราพังได้

WordPress เหมาะสำหรับการสร้างเว็บขายของออนไลน์แบบ เรานำสินค้าลงขายเอง เก็บตังเอง จัดส่งเอง ไม่เหมาะสำหรับการสร้างเว็บที่มีความซับซ้อนของระบบและเงื่อนไขที่เยอะเกินไป โดยเฉพาะ สร้างเว็บ Marketplace

องค์ประกอบของเว็บไซต์ WordPress

  1. Domain โดเมน คือ ชื่อที่อยู่ของเว็บไซต์เรา เปรียบง่ายๆก็เหมือนกับ ไอดีไลน์ของเราครับ
  2. Hosting โฮสติ้ง คือ ฐานเก็บข้อมูล เป็นพื้นที่สำหรับให้เรา นำเว็บไซต์ขึ้นไปติดตั้ง ให้เว็บไซต์ ขึ้นไปอยู่บนโลกออนไลน์ครับ
  3. WordPress เวิร์ดเพรส คือ ระบบช่วยสร้างเว็บไซต์ โดยเราไม่ต้องเขียนโคด
  4. Theme ธีม คือ เครื่องมือสำหรับออกแบบเว็บไซต์ จัดวางหน้าตา layout ต่างๆ ให้สวยงาม
  5. Plugin ปลั๊กอิน คือ ส่วนเสริมฟังก์ชั่นต่างๆ ช่วยทำในสิ่งที่เราต้องการ หรือ ช่วยให้ตอบโจทย์ในธุรกิจของเรามากขึ้น เช่น สร้างร้านค้าออนไลน์ สร้างแบบฟอร์มติดต่อ สร้างหน้าแจ้งการชำระเงิน ปรับความเร็วให้เว็บไซต์ และอื่นๆอีกมากมาย

เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ผมขอเปรียบเทียบเว็บไซต์ เป็นคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง

เว็บ สร้าง qr code ฟรี

Hosting โฮสติ้ง เปรียบเหมือนกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์เปล่าๆ แน่นอนว่าคอมเครื่อเปล่าไม่สามารถใช้งานอะไรได้ หากไม่ลงระบบปฏิบัติการ (windows,OS)

องค์ประกอบของเว็บไซต์

Domain โดเมน เปรียบเหมือนกับ ชื่อผู้ใช้งาน คอมพิวเตอร์ 1 เครื่องสามารถมีผู้ใช้งานได้หลายคนโดยตอนที่เราเปิดเครื่องจะมีให้เลือก ว่าเราจะเข้าใช้งานในชื่อผู้ใช้ใด (Admin,ทั่วไป ,เลขา ,ผู้จัดการ)

สร้างเว็บไซต์ php

WordPress เปรียบเหมือนกับระบบปฏิบัติการ (windows,OS) บนคอมพิวเตอร์ ซึ้งเราต้องติดตั้งไว้ในตัวคอมพิวเตอร์ก่อน จึงจะสามารถใช้งานได้ แต่ตัว WordPress ไม่ได้มีความสามารถในการออกแบบตกแต่งให้สวยงามได้ ต้องอาศัยความสามารถนี้จากโปรแกรมอื่นๆ

สร้างเว็บไซต์เพจ

Theme & Plugin ธีมและปลั๊กอิน เปรียบเหมือนกับโปรแกรมต่างๆในคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งาน ตกแต่งให้สวยงาม สร้างฟังก์ชั่นต่างๆ ใช้ความสามารถของธีมและปลั๊กอินทั้งสิ้น

กลับสู่สารบัญ

ข้อดีของการสร้างเว็บไซต์

ประโยชน์ของเว็บไซต์มีอยู่มากมาย นำเสนอสิ่งที่เราต้องการแบ่งปัน แชร์เรื่องราวต่างๆ หรือ ใช้ทำการตลาดออนไลน์ ติด Pixel เพื่อยิงโฆษณาหาลูกค้าได้ทุกแพลตฟอร์ม เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของเรา สร้างโอกาสการสร้างรายได้มากขึ้น

  • ช่องทางการสร้างรายได้จากเว็บไซต์
  • ใช้สร้างร้านค้าออนไลน์เพื่อขายสินค้า
  • สร้างคอนเทนต์ให้คนสนใจเยอะๆ แล้วรับลงโฆษณา
  • สร้างคอนเทนต์เฉพาะทาง แล้วรับสปอนเซอร์จากสินค้านั้นๆ
  • สร้างเว็บไซต์เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับโรงงานผู้ผลิต
  • สร้างเว็บไซต์รีวิวสินค้า บริการ หรือ ร้านอาหาร เพื่อรวมกลุ่มลูกค้าให้ผู้ประกอบการ
  • สร้างเว็บไซต์รีวิวเพื่อทำ Affiliate
  • สร้างรายได้จากการ รับจ้างสร้างเว็บไซต์ หรือ เป็นฟรีแลนซ์
  • เพิ่มยอดขาย เพิ่มโอกาส เพิ่มความสามารถด้านการตลาดให้กับธุกิจของคุณด้วย
  • การมีเว็บไซต์คือการเพิ่มภาพลักษณ์ให้มีความหน้าเชื่อถือกับลูกค้า

ค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์ WordPress

wordpress คือ อะไร

ในกรณีที่เราสร้างเว็บไซต์เองทุกอย่าง

โดยผมขอแยกเป็น 2 กรณี 1.สร้างเว็บไซต์ทั่วไป , 2.สร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์

1.สร้างเว็บไซต์ทั่วไป คือ ซื้อแค่สิ่งที่จำเป็น

  • การจดโดเมน ราคาอยู่ที่ 400-1000 บาทต่อปี ราคาขึ้นอยู่กับนามสกุลของโดเมนและเจ้าที่เลือกใช้บริการ โดเมนยอดฮิตที่ใช้คือ .com อยู่ที่ประมาณ 400 บาท/ปี .org 600/ปี .in.th 500 บาท/ปี .me 1000 บาท/ปี
  • การเช่าโฮสติ้ง ราคาอยู่ที่ 1500-3000 บาทต่อปี อันนี้แล้วแต่เจ้าที่เราเลือกใช้บริการ มือใหม่ ผมแนะนำให้ใช้เจ้าของคนไทย เพราะเวลามีปัญหา เราต้องติดต่อกับฝ่ายซัพพอร์ต ของเจ้านั้นๆ ให้เขาช่วยเหลือหรือแก้ไขข้อผิดพลาด

มือใหม่ ผมแนะนำให้ใช้เจ้าเดียวกัน ในการจดโดเมนและเช่าโฮสติ้งนะครับ

โดยส่วนตัวผมแนะนำเป็นโฮสอะตอม เพราะเจ้านี้บริการดี สเปคของโฮสติ้งผ่านเกณฑ์ hostatom.com

หากใช้โฮสอะตอม ราคารวมจะอยู่ที่ 2,022 บาท/ปี

2.สร้างเว็บไซต์แบบที่ผมสอน คือ การสร้างเว็บไซต์ขายของออนไลน์เต็มรูปแบบ เว็บไซต์ เป็นหน้าร้านบนโลกออนไลน์ เราสร้างร้านขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาดูสินค้าหรือบริการของเรา ต้องมีฟังก์ชั่นต่างๆ มีการออกแบบ ปรับแต่ง ให้ดูสวยงามน่าเชื่อถือ ที่จะให้ลูกค้าซื้อของจากเว็บไซต์ของเรา เหมือนกับการที่เราสร้างหน้าร้านจริงๆในออฟไลน์ เพราะฉะนั้นคุณต้องลงทุน

  • จดโดเมนราคา 500 บาท/ปี
  • เช่าโฮสติ้งราคา 1500 บาท/ปี หรือ ถ้าต้องการใช้โฮสติ้งระดับต้นๆของโลก ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท/ปี
  • ซื้อ theme ธีม Flatsome ราคา 2,050
  • ปลั๊กอิน แจ้งการชำระเงิน Seed Confirm Pro 1 เว็บไซต์ ราคา 790 บาท
  • ปลั๊กอิน ปรับความเร็วเว็บไซต์ wp-rocket 1 เว็บไซต์ ราคา 1,700 บาทต่อปี

รวมแล้วราคาอยู่ที่ 6,540 บาท

จริงๆแล้วเราไม่จำเป็นต้องซื้อพร้อมกันทั้งหมดในครั้งเดียว ในส่วนของปลั๊กอินเราค่อยซื้อมาเพิ่มทีหลังก็ได้ ที่สำคัญมีแค่ 3 อย่าง คือ จดโดเมน เช่าโฮสติ้ง ซื้อธีม 

แต่ในกรณีที่เรียนกับผม ผมมีธีม Flatsome ให้ท่านใช้ก่อน แล้วค่อยไปซื้อใบอนุญาติมาใส่ทีหลังก็ได้ครับ

ถ้าจะเรียนทำเว็บกับผม ก็เตรียมแค่เงินค่า จดโดเมนและเช่าโฮสติ้ง อยู่ที่ 2,000 บาท ก็พอครับ

ในกรณีที่เราจ้างทำเว็บไซต์ ทุกอย่าง

  • จดโดเมนเช่าโฮสติ้ง 2,000 บาท/ปี
  • ซื้อธีม 2,000 บาท
  • ปลั๊กอิน แจ้งการชำระเงิน Seed Confirm Pro 1 เว็บไซต์ ราคา 790 บาท
  • ปลั๊กอิน ปรับความเร็วเว็บไซต์ wp-rocket 1 เว็บไซต์ ราคา 1,700 บาทต่อปี
  • จ้างทำกราฟฟิค อยากให้เว็บสวยเป็นมืออาชีพ ราคาโดยเฉลี่ย 15,000 – 20,000 บาท
  • ค่าจ้างทำเว็บ WordPress แต่ละคนก็ไม่เท่ากัน โดยเฉลี่ย 15,000 – 30,000 บาท

ถ้าคุณจ้างทำทุกอย่าง ราคาจะประมาณ 30,000 – 50,000 บาท (เป็นอย่างน้อย)

สรุป ต้นทุนของการสร้างเว็บไซต์ WordPress แบบคุณภาพดี

  • หากคุณเรียนรู้สร้างเว็บเอง จะใช้เงินประมาณ
    4,500 บาท (ไม่รวมค่าจ้างกราฟฟิค , ไม่ซื้อปลั๊กอินต่างๆ)
    20,000 บาท (สร้างเว็บเอง แต่จ้างกราฟฟิคมืออาชีพ มาทำรูปให้)
    ต้นทุนด้านเวลา 3-4 เดือน ในการเรียนรู้สร้างเว็บเอง
  • หากคุณจ้างคนทำเว็บให้
    15,000-30,000 บาท (ไม่รวมค่าจ้างกราฟฟิค)
    30,000 – 50,000 บาท (รวมค่าจ้างกราฟฟิค)
    ต้นทุนด้านเวลาประมาณ 1 เดือน

สรุป

WordPress คือ CMS ยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก เป็นซอฟท์แวร์สำหรับบริหารจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ โดยเราไม่ต้องเขียนโค้ด เราควรเลือกใช้ WordPress.org เพราะสามารถปรับแต่งออกแบบได้เยอะ และยังสามารถสร้างเว็บไซต์ได้หลายรูปแบบ ต้นทุนในการทำเว็บ อยู่ที่ 4,500 บาท โดยประมาณ ถ้าเราทำเองทุกอย่าง

บทเรียนต่อไป วิธีจดโดเมน